การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (๑) ศึกษาบทบาทพระสังฆาธิการในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี (๒) เปรียบเทียบความคิดเห็นที่มีต่อบทบาทพระสังฆาธิการในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ (๓) ศึกษาปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาบทบาทพระสังฆาธิการในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งในการศึกษาครั้งนี้ เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี โดยการวิจัยเชิงปริมาณเก็บข้อมูลภาคสนามจากพระสงฆ์ในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จำนวน ๑๙๐ รูป วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้โดยหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าเอฟ วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว เมื่อพบความแตกต่าง จึงทำการเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นคู่ ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด และในส่วนของการวิจัยเชิงคุณภาพมีการวิเคราะห์เอกสาร และใช้แบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลภาคสนามจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๑๒ รูป/คน และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท

             ผลการวิจัยพบว่า

             ๑. บทบาทพระสังฆาธิการในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๒๙ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมทางวัตถุ อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๓๐ ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมที่ไม่ใช่วัตถุ อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๒๗

                 ๒. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นที่มีต่อบทบาทพระสังฆาธิการในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลของพระสงฆ์ ได้แก่ ตำแหน่ง มีผลให้ความคิดเห็นต่อบทบาทพระสังฆาธิการในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๑ ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานการวิจัยที่ตั้งไว้ และปัจจัยส่วนบุคคลของพระสงฆ์ ได้แก่ การศึกษา มีผลให้ความคิดเห็นต่อบทบาทพระสังฆาธิการในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ส่วนปัจจัยส่วนบุคคลอื่น ๆ ได้แก่ อายุ และพรรษา ไม่พบความแตกต่าง

             ๓. ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาบทบาทพระสังฆาธิการในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี พบว่า ด้านการการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมทางวัตถุ ได้แก่ ส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาเฉพาะทางเพื่อการอนุรักษ์วัฒนธรรมแก่พระสังฆาธิการ, ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมและสร้างผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมเพื่อการค้า, ส่งเสริมให้มีการใช้สื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศทุกรูปแบบที่มีอยู่ในการเผยแพร่ข่าวสารและความรู้ด้านวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมการจัดให้มีหลักสูตรวัฒนธรรมศึกษาในสถานศึกษาทุกระดับ ส่วนด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมที่ไม่ใช่วัตถุ ได้แก่ ส่งเสริมการเสริมสร้างค่านิยมการอนุรักษ์และพัฒนาวัฒนธรรมและจารีตประเพณีที่ดีงามอย่างเป็นระบบ, ส่งเสริมการทำงานเป็นเครือข่ายร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์วัฒนธรรมทั้งในจังหวัดและทั่วประเทศ และส่งเสริมให้มีการจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม

Download