กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ(สัมภาษณ์) คือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในตำบลบ้านเหล่า อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา จำนวน ๑๐ คน             โดยใช้วิธีการสุ่มประชากรและกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling)  และผู้ให้ข้อมูลสนทนากลุ่มย่อย(Focus Group) โดยใช้วิธีการสุ่มแบบง่ายจากผู้ให้ข้อมูลเชิงลึก ในตำบลบ้านเหล่า อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา จำนวน ๑๒ คน

ผลการวิจัย วัตถุประสงค์ข้อที่ ๑ เพื่อศึกษาโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ตำบล           บ้านเหล่า อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา พบว่าการอยู่ร่วมกันของชุมชนอำเภอแม่ใจในอดีตความสัมพันธ์เครือญาติแบบพี่แบบน้อง มีประเพณี วัฒนธรรม ที่สร้างเสริมให้มีความรักความเมตตาต่อกัน ไม่เบียดเบียนกัน มีความสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูล ยึดหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า เกรงกลัวต่อบาป รวมถึงการอนุรักษ์ขนบธรรมประเพณีที่ดีงาม ซึ่งเป็นต้นทุนที่ดีของสังคม วัตถุประสงค์ข้อที่ ๒ เพื่อศึกษาแนวทางการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันของชุมชนในตำบลบ้านเหล่า อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา พบว่า การปฏิบัติตามศีล ๕ เป็นหลักธรรมที่ทำให้คนในชุมชนอำเภอแม่ใจ ทำความดี ละเว้นความชั่ว รักษากาย วาจา และใจ และการจัดการเพื่อคุ้มครองชีวิตที่ดีร่วมกัน ให้มีความสงบร่มเย็น สร้างความสุขของบุคคลและสังคม โดยปี พ.ศ.๒๕๕๗คณะรักษาความสงบแห่งชาติร่วมกับรัฐบาล และมหาเถรสมาคม ได้กำหนดเป็นนโยบายโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ส่งเสริมให้ประชาชนใช้เป็นหลักในการดำรงชีวิตประจำวันสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ให้ประชาชนปฏิบัติตนใช้ศีล ๕ เป็นหลักปฏิบัติการอยู่ร่วมกัน รู้จักใช้เหตุผล ยับยั้งชั่งใจ พัฒนาชีวิต และการจัดการเพื่อชีวิตที่ดีร่วมกัน ดำรงตนสมศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ วัตถุประสงค์ข้อที่ ๓ วิเคราะห์แนวทางการส่งเสริมโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ตำบลบ้านเหล่า อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา พบว่า รัฐควรมีการกำหนดเป็นแนวทางการดำเนินงานศีล ๕ บูรณาการกฎหมายที่เกี่ยวข้องร่วมกับการรณรงค์               สร้างกระแสอย่างจริงจังต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ควรยกย่องเชิดชูเกียรติคนที่นำหลักศีล ๕ ไปใช้ในการดำรงชีวิตได้ดี สามารถเป็นต้นแบบคนดีรักษาศีล ๕ พร้อมทั้งการสนับสนุนให้ชุมชนจัดกิจกรรมส่งเสริมการรักษาศีล ๕ และปลูกฝัง           ต้นกล้าแห่งความดี “ยุวชนรักษาศีล”แก่ชุมชน โดยการพาเด็กเข้าวัดปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ                  และจัดการให้ผู้นำชุมชนมีความเข้าใจในหลักการ ตลอดจนถึงแนวทางการปฏิบัติตามของศีล ๕             และพระสงฆ์ในฐานะผู้นำศาสนา และองค์กรสงฆ์  ควรใช้ในทุกโอกาสทั้งงานมงคล และอวมงคล  หรืองานพิธีต่าง ๆ สร้างความเข้าใจในแนวทางปฏิบัติรักษาศีล ๕ ให้แก่ประชาชน