การวิจัยนี้เป็นการศึกษาวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Method) ได้แก่ การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)และ การวิจัยเชิงกึ่งทดลอง (Quasi-Experimental Research) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) เพื่อศึกษาพฤติกรรมในการป้องกันตนเองจากยาเสพติดและอบายมุขของผู้เรียนตามโครงการสถานศึกษาสีขาว ในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอหนองหาน  จังหวัดอุดรธานี ๒) เพื่อศึกษารูปแบบการพัฒนาผู้เรียนตามโครงการสถานศึกษาสีขาวเชิงพุทธบูรณาการ ในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอหนองหาน  จังหวัดอุดรธานี ๓) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบพฤติกรรมในการป้องกันตนเองจากยาเสพติดและอบายมุขของผู้เรียนตามโครงการสถานศึกษาสีขาวเชิงพุทธบูรณา ในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ประชากรที่ใช้ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ในพื้นที่อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๓ จำนวน ๑,๔๑๙  คน กลุ่มตัวอย่างวิจัยเชิงปริมาณ  โดยใช้ตารางสำเร็จรูปของเครจซี่และมอร์แกน ได้ขนาดขนาดกลุ่มตัวอย่าง จำนวน ๓๐๖ คน กลุ่มตัวอย่างวิจัยเชิงคุณภาพ ได้แก่กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๙ คน ซึ่งเป็นการเลือกแบบเจาะจง จากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามโครงการสถานศึกษาสีขาว  และกลุ่มตัวอย่างวิจัยเชิงทดลอง จำนวน ๙๐ คน  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย ๑) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมในการป้องกันตนเองจากยาเสพติดและอบายมุขของผู้เรียนตามโครงการสถานศึกษาสีขาวเชิงพุทธบูรณาการ
กับกลุ่มตัวอย่าง จำนวน ๓๐๖ คน ๒) แบบสัมภาษณ์กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับรูปแบบการพัฒนาผู้เรียนตามโครงการสถานศึกษาสีขาวเชิงพุทธบูรณาการ ๓) หลักสูตรค่ายพัฒนาทักษะชีวิตเชิงพุทธบูรณาการ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติทดสอบ t-test แบบ Dependent Samples กำหนดระดับนัยสำคัญที่ ๐.๐๕

๑. ผู้เรียนมีพฤติกรรมในการป้องกันตนเองจากยาเสพติดและอบายมุข โดยรวมอยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน ( =๒.๖๓)