การวิจัยมีวัตถุประสงค์คือ ๑) เพื่อศึกษาสภาพความเสี่ยงด้านการเรียนการสอน ๒) เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารความเสี่ยงด้านการเรียนการสอน ๓) เพื่อเสนอแนวทางการบริหารความเสี่ยงด้านการเรียนการสอนของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ ๑  โดยใช้กลุ่มตัวอย่าง เป็นผู้บริหารและครูโรงเรียน จำนวน ๑๖๑ รูป/คน เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา (Description Research) โดยมีกระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จากการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) ๑๔ รูป/คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์  และสถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล  ได้แก่  ค่าความถี่  ค่าร้อยละ  ค่าเฉลี่ย  และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) จากการสัมภาษณ์

ผลการวิจัย

                 ๑) สภาพความเสี่ยงและผลกระทบต่อด้านการเรียนการสอนของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ ๑ โดยภาพรวมสถิติ  รายด้าน อยู่ในระดับปานกลางทุกข้อ
 
                ๒) แนวทางการบริหารความเสี่ยงด้านการเรียนการสอนของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ ๑ ดำเนินการวิเคราะห์หลักสูตรและการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาตอบสนองสภาพความเป็นจริง  สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนได้  และแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามประเมินผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

                 ๓) เสนอแนะแนวทางการบริหารความเสี่ยงด้านการเรียนการสอนของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ ๑  พัฒนาการเรียนการสอนให้มีเครือข่ายการทำวิจัย  ส่งเสริมให้ครูพัฒนาด้านวิชาการอย่างต่อเนื่อง  พัฒนาครูให้เขียนโครงงานตามรายวิชาที่ได้รับผิดชอบ  ส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน  สร้างเครื่องมือการประเมินผลการเรียนรู้ตามสภาพจริง  เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง  เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางด้านการเรียนการสอนของโรงเรียนพระปริยัติธรรม  แผนกสามัญศึกษา