หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระมหาสราวุธ สราวุโธ (สุดสนอง)
 
เข้าชม : ๑๙๙๙๙ ครั้ง
ศึกษาวิบากที่เป็นปัจจัยแก่การเจริญวิปัสสนาภาวนาในพุทธศาสนาเถรวาท
ชื่อผู้วิจัย : พระมหาสราวุธ สราวุโธ (สุดสนอง) ข้อมูลวันที่ : ๒๗/๐๓/๒๐๑๘
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(วิปัสนาภาวนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  วิโรจน์ คุ้มครอง
  -
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๑๙ มกราคม ๒๕๖๑
 
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

            สารนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ ๒ ประการคือ เพื่อศึกษาวิบากในคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท และ เพื่อศึกษาวิบากที่เป็นปัจจัยแก่การเจริญวิปัสสนาภาวนาในคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท โดยนำข้อมูลจากคัมภีร์สำคัญของพุทธศาสนาเถรวาท คือ พระไตรปิฎก ปกรณวิเสสวิสุทธิมรรค รวมทั้งข้อมูลจากเอกสารวิชาการที่เกี่ยวข้องแล้วนำมาเรียบเรียงบรรยายตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ

 

            วิบาก แปลว่า ผลของกุศลและอกุศลที่พิเศษหรือต่างกัน โดยเนื้อความหมายถึง ผลที่เกิดจากกระบวนการทำงานของจิต โดยจิตเสวยอารมณ์ที่เกิดดับไปก่อนจัดเป็นวิบากของจิต วิบากแบ่งออกเป็น ๒ อย่างคือ ๑) กุศลวิบากและ ๒) อกุศลวิบาก เมื่อจิตดวงก่อนเป็นกุศลดับไปจิตจะมีกุศลเป็นวิบากทันที เมื่อจิตดวงก่อนดับเป็นอกุศล มีอกุศลเป็นวิบาก กุศลวิบากเมื่อจิตเสวยเข้าแล้วย่อมทำให้เกิดสุขเวทนา ส่วนอกุศลวิบากเมื่อจิตเสวยเข้าแล้วย่อมทำให้เกิดทุกขเวทนา โดยความเข้าใจของปุถุชนทั่วไปเข้าใจว่ากุศลและอกุศลวิบากเกิดจากกรรมทำให้เกิดขึ้น แต่กุศลและอกุศลเกิดขึ้นจากจิตที่เกิดดับทุกขณะเป็นปกติ จิตที่เกิดดับย่อมเสวยวิบากสืบต่อกันวนเวียนเป็นวัฏฏะไม่มีสิ้นสุด ตามหลักพระพุทธศาสนาการหลุดพ้นจากวิบากต้องอาศัยการเจริญวิปัสสนาภาวนาจนบรรลุมรรค ผล นิพพาน

                การเจริญวิปัสสนาตามแนวสติปัฏฐาน ๔ มี สติระลึกรู้ กาย เวทนา จิต ธรรม  การระลึกรู้อยู่อย่างนี้ ย่อมรู้เห็นเหตุปัจจัย ในสภาวธรรมของรูปนามที่เกิด ดับ การกำหนดรู้เห็นเหตุปัจจัยของสภาวธรรมตามความเป็นจริง เพื่อป้องกันกรรมไม่ให้เกิดขึ้น ต้องกำหนดรู้วิบากเพื่อให้เห็นเหตุปัจจัย ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่มีตัวตน ของรูปนาม การเห็นตามความเป็นจริงของสภาวธรรมที่มีเหตุปัจจัยอันอิงอาศัยกันและกันอย่างนี้ จิตของผู้ปฏิบัติย่อมน้อมไปสู่การรู้ไตรลักษณ์ และเข้าสู่วิปัสสนาญาณ จนถึง มรรคญาณ ผลญาณ และนิพพาน หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด เข้าสู่ความเป็น  พระอริยบุคคล วิบากที่เป็นกุศลส่งผลให้บรรลุเป็นพระอริยบุคคล แต่วิบากที่เป็นอกุศล ก็ยังส่งผลให้รับวิบากกรรมอีก เช่น กรณีพระจักขุบาลเถระ สำเร็จเป็นพระอรหันต์พร้อมกับตาของท่านบอดทันทีเป็นต้น วิบากทั้งที่เป็นกุศลและอกุศล ย่อมติดตามเหมือนเงาติดตามตัว เพราะกรรมที่ได้กระทำไว้

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕