บทคัดย่อ
การวจัยครั้งนี้ มีวตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ ๑) เพอศึกษาหลักการปฏบัติธ รรมใน พระพุทธศาสนา ๒) เพอศึกษาการพฒนาตนเองจากการปฏบัติธรรม ของพทธศาสนิกชนที่มาปฏบัติ ธรรม ในวัดอัมพวัน ตาบลพรหมบุรี อาเภอพรหมบุรี จังหวดสิงห์บุรี ๓) เพอนาเสนอผลลัพธของการ พฒนาตนเองจากการปฏบัติธรรมของพทธศาสนิกชน ที่วดอมพวนตาบลพรหมบุรีอาเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methodology Research) โดย
ใช้ระเบียบวิธี วิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) โดยกาหนดรูปแบบในการวิจัยเชิงสารวจ (Survey Research) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้ที่มา ปฏิบัติธรรม ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาตนเองจากการปฏิบัติธรรม ของพุทธศาสนิกชนที่มาปฏิบัติ ธรรมในวัด อัมพวัน ตาบลพรหมบุรี อาเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรีจานวน ๗,๑๗๙ คน กลุ่มตัวอย่างที่ ใช้ในการ วิจัย ผู้วิจัยได้สุ่มตัวอย่างมาจากผู้ที่มาปฏิบัติธรรม ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาตนเองจาก การ ปฏิบัติธรรม ของพุทธศาสนิกชนที่มาปฏิบัติธรรมในวัดอัมพวัน ตาบลพรหมบุรี อาเภอพรหมบุรี
จังหวัดสิงห์บุรีโดยการกาหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างที่ได้จากการเปรียบเทียบตารางสาเร็จรูปของทาโร ยา มาเน (Taro Yamane) ซึ่งมีกลุมตัวอย่าง จานวน ๒๗๙ คน และทาการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interviews) กับผู้ให้ข้อมูลหลัก ด้วยวิธีการสัมภาษณ์ จานวน ๑๐ ท่าน การเก็บรวบรวม ข้อมูลใช้เครื่องมือเป็นแบบสอบถาม (Questionnaire) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูปเพื่อ การวิจัยทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของประชากร คือ ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และ การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) กับผู้ให้ข้อมูลสาคัญ (Key Informants) จานวน ๑๑ คน โดยเทคนิคการวิเคราะห์ เนื้อหาประกอบบริบท (Content Analysis Technique)
ผลการวิจัยพบว่า
การพัฒนาตนเองจากการปฏิบัติธรรม ของพุทธศาสนิกชนที่มาปฏบัติธรรมในวดอมพวน ตาบลพรหมบุรี อาเภอพรหมบุร จังหวัดสิงห์บุรี โดยภาพรวม ด้านการพัฒนากาย อยู่ในระดับมาก
การพัฒนาตนเองจากการปฏิบัติธรรม ของพุทธศาสนิกชนที่มาปฏบัติธรรมในวดอมพวน ตาบลพรหมบุรี อาเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยภาพรวม การพัฒนาศีล อยู่ในระดับมาก
การพัฒนาตนเองจากการปฏิบัติธรรม ของพุทธศาสนิกชนที่มาปฏบัติธรรมในวดอมพวน
ตาบลพรหมบุรี อาเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยภาพรวม การพัฒนาจิต อยู่ในระดับมาก การพัฒนาตนเองจากการปฏิบัติธรรม ของพุทธศาสนิกชนที่มาปฏิบัติธรรมในวัดอัมพวัน
ตาบลพรหมบุรี อาเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยภาพรวม การพัฒนาปัญญา อยู่ในระดับมาก
ข้อเสนอแนะ
จากการที่ผู้วิจัยได้ลงพนที่สารวจและเข้าร่วมปฏบัติธรรมที่วดอมพวน อาเภอ พรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ได้เล็งเห็นว่าการสอนวิปัสสนากรรมฐานในรูปแบบสติปัฏฐาน ๔ ของที่นี่ ได้มีการสอน ในแบบง่ายไปหายาก เป็นการเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนเข้าถึงการปฏบัติธรรม และสามารถพฒนา ให้เข้าใจลึกซึ้งถึงแก่นแท้ของพระพทธศาสนา เนื่องจากพระอาจารย์ของวดอมพวนได้สอนตั้งแต่ หลักการเริ่มต้นของการปฏิบัติธรรม ทั้งการเดินจงกรมและนั่งสมาธ ซึ่งทาให้ผู้ที่เพงมีโอกาสฝึกปฏบัติ ธรรมครั้งแรกได้เรียนรู้พื้นฐานตั้งแต่เริ่มต้นและเมื่อฝึกฝนอย่างสม่าเสมอก็จะสามารถพฒนาตนเองใน ด้านกาย ศีล จิต และปัญญาได้เป็นอย่างดี แต่จากการสารวจทาให้พบวาผู้ที่สามารถนาหลักการ ปฏิบัติธรรมมาใช้จนเข้าใจและสามารถพฒนาตนเองได้เป็นอย่างดีนั้นมีทั้งกลุ่มผู้ที่พบกับความสูญเสีย หรือเป็นโรคภยไข้เจ็บ และกลุ่มที่ไม่มีความทุกข์ร้อนใจแต่อยากเข้ามาศึกษาธรรมะ สิ่งเหล่านี้ทาให้ เห็นวาการศึกษาการปฏบัติธรรมเหมาะกับคนทุกกลุ่มทั้งที่มีความทุกข์หรือมีความสุข และที่สาคัญ การปฏิบติธรรมส่งผลให้เกิดการเรียนรู้และพฒนาตนเอง ซึ่งการพฒนานั้นสาคัญที่สุดก็คือการพฒนา ตนเอง เมื่อพัฒนาตนเองจนมีศักยภาพในด้านต่างๆแล้ว ก็จะสามารถพฒนาสิ่งที่กวางและยิ่งใหญ่มาก ขึ้นก็คือการพฒนาครอบครัว พฒนาชมชน พฒนาสังคม และพฒนาประเทศชาติสืบต่อไป ห าก พทธศาสนิกชนสนใจเข้าศึกษาการปฏบัติธรรมและนากลับไปปฏบัติเองได้ต่อที่บ้านอย่างเป็นวงกวาง ก็จะส่งผลให้เกิดการพัฒนาสิ่งที่ดีมีคุณภาพขึ้นในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน
ดาวน์โหลด
|