หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระปลัดเดโชว์ สุคนฺโธ (ไทยมานิตย์)
 
เข้าชม : ๑๙๙๗๔ ครั้ง
ศึกษาการบำเพ็ญบารมีและบรรลุธรรมของพระปฏาจาราเถรี
ชื่อผู้วิจัย : พระปลัดเดโชว์ สุคนฺโธ (ไทยมานิตย์) ข้อมูลวันที่ : ๑๖/๐๘/๒๐๑๗
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(วิปัสนาภาวนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระราชโมลี (มีชัย วีรปญฺโญ)
  ชัยชาญ ศรีหานู
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๑๒/มีนาคม/๒๕๕๙
 
บทคัดย่อ

 

บทคัดย่อ

วิทยานิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ เพื่อศึกษาการบรรลุธรรมในคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท เพื่อศึกษาการบำเพ็ญบารมีเพื่อการบรรลุธรรมในคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท เพื่อศึกษาการบำเพ็ญบารมีและการบรรลุธรรมของพระปฏาจาราเถรี  โดยศึกษาข้อมูลจากคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาทและเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวบรวม สรุป วิเคราะห์ เรียบเรียงบรรยายเชิงพรรณนา ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ จากการศึกษาพบว่า

             การบรรลุธรรมในพระพุทธศาสนาหมายถึงการรู้แจ้งอริยสัจ ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ได้แก่การบรรลุโลกุตตรธรรม ๙ ได้แก่ มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ ทำการละสังโยชน์ธรรมได้ตามกำลังของมรรคญาณ แบ่งเป็น ๔ ระดับคือ ๑) พระโสดาบันสามารถประหาณ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพต-ปรามาสได้, ๒) พระสกทาคามีทำราคะ และปฏิฆะให้เบาบางลงได้, ๓) ผู้สำเร็จเป็นพระอนาคามีบุคคล ย่อมประหาณสังโยชน์ทั้ง ๓ รวมทั้งกามราคะ ปฏิฆะได้ และ ๔) พระอรหันตบุคคล ย่อมประหาณสังโยชน์ที่เหลือคือ รูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุจธัทจะ และอวิชชาได้โดยสิ้นเชิง

             การบำเพ็ญบารมีเพื่อบรรลุธรรม คือ การสั่งสมคุณความดี ๑๐ ประการ มีทานเป็นต้น
อันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานเป็นระยะเวลายาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงชาติปัจจุบันให้บริบูรณ์ การบำเพ็ญบารมีสามารถแบ่งได้เป็น ๒ ประเภท คือ (๑) โพธิสัตว์บารมี คือ การบำเพ็ญบารมี ๑๐ ประการ ให้บริบูรณ์อย่างยิ่งยวด ๓ ระดับขั้น ได้แก่ บารมี อุปบารมี และปรมัตถบารมี โดยตั้งความปรารถนาเพื่อจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต (๒) สาวกบารมี คือ การบำเพ็ญบารมี ๑๐ ประการ ให้บริบูรณ์ เพื่อที่จะตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้า

             พระภิกษุณีปฏาจาราเถรีได้เริ่มสั่งสมบารมีและตั้งความปรารถนาเป็นเอตทัคคะสาวิกาผู้เลิศด้านทางทรงจำพระวินัย ในสมัยพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตระ และ บำเพ็ญบารมีเรื่อยมาจนถึงสมัยพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เมื่อมีชีวิตต้องประสบกับความทุกข์โสกเพราะการเสื่อมสูญด้านครอบครัวจนเสียสติ และได้การฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าและเจริญวิปัสสนาภาวนา ดูรูปนามอย่างต่อเนื่อง ตามแนวสติปัฏฐาน ๔ จนตัดสังโยชน์ ๑๐ เข้าสู่โลกุตรธรรม ๙ สำเร็จเป็นพระอรหันต์ในที่สุดและได้รับการยกย่องในเอตทัคคะทางการทรงจำพระวินัย

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕