หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » ยโสธารา ศิริภาประภากร
 
เข้าชม : ๒๐๐๓๕ ครั้ง
ศึกษาความเชื่อในพิธีกรรมการเข้าทรงของพุทธ : กรณีศึกษา บ้านศาลาสามัคคี ตำบลบ้านชบ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์
ชื่อผู้วิจัย : ยโสธารา ศิริภาประภากร ข้อมูลวันที่ : ๑๙/๑๒/๒๐๑๖
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระมหาสมพาน ชาคโร
  พระอธิการเวียง กิตติวณฺโณ
  -
วันสำเร็จการศึกษา :
 
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

 

วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาเกี่ยวกับความเชื่อและพิธีกรรมในการเข้าทรงโดยวางวัตถุประสงค์ไว้    ประการด้วยกันคือ  ๑.เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพิธีกรรมในทางพระพุทธศาสนากับพิธีกรรมในการเข้าทรงชุมชนบ้านศาลาสามัคคี  ตำบลบ้านชบ  อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์   ๒.เพื่อศึกษาความเชื่อในพิธีกรรมการเข้าทรงของชาวพุทธ ชุมชนบ้านศาลาสามมัคคีคำบลบ้านชบ  อำเภอสังขะ  จังหวัดสุรินทร์  ๓. เพื่อศึกษาอิทธิพลความเชื่อในพิธีกรรมการเข้าทรงของชุมชนที่มีในด้าน ศาสนา   ด้านการรักษา  ด้านการศึกษา  ด้านการสื่อสาร  ด้านเศรษฐกิจ  ด้านการเมืองการปกครอง  ตลอดถึงสังคมและวัฒนธรรม ของชุมชนบ้านศาลาสามัคคี ตำบลบ้านชบ อำเภอสังขะ  จังหวัดสุรินทร์ วิธีการดำเนินการวิจัย  ศึกษาจากคัมภีร์พระไตรปิฎก  คัมภีร์อรรถกถา  ตำรา  เอกสารทางวิชาการ  และข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ตลอดถึงผู้วิจัยได้ลงสำรวจพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูล และลงพื้นที่ที่มีการประกอบพิธีกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องและเข้าไปมีส่วนร่วม ในพิธีกรรมและความเชื่อของชุมชน และรายงานที่เกี่ยวข้อง ผลการวิจัยพบว่า

ความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อทางพระพุทธศาสนากับพิธีกรรมของร่างทรง พบว่า ความเชื่อส่วนใหญ่ของร่างทรงที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา คือ ความเชื่อเรื่องการปฏิบัติธรรม  ความเชื่อในเรื่องการสวดมนต์ไหว้พระ   ความเชื่อในการถือศีลกินเจ  เลี้ยงพระ ถวายสังฆทาน  และความเชื่อในการทอดกฐิน  ผ้าป่า  ช่วยบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์  ถ้าจะแบ่งความเชื่อของร่างทรงออกเป็นความเชื่อทางพระพุทธศาสนาและความเชื่ออื่น ๆ พบว่า  ร่างทรงที่มีความเชื่อทางพระพุทธศาสนา พิธีกรรมที่กระทำสูงสุดคือ การปฏิบัติธรรมสวดมนต์พระคาถาต่างๆอาทิเช่น  ก่อนการเริ่มพิธีกรรมนั้นร่างทรง และผู้ที่จะเข้าร่วมประกอบพิธีนั้นจะมีการสวดมนต์  นมัสการพระรัตนตรัย    บทชุมนุมเทวดา สักเค...   บทเจริญคุณ...   พระคาถายอดพระกัณไตรปิฎกพระคาถาชินบัญชร  พาหุงมหากา  มลคลจักวาล  เป็นต้น  ซึ่งบทสวดเหล่านี้บรรดาร่างทรงที่มีการประกอบพิธีกรรมได้นำมาประยุกต์ใช้ในการประกอบพิธีรองลงมาคือ  ทำบุญให้ทานตามโอกาสต่าง ๆร่างทรงที่มีความเชื่อด้านอื่น ๆ คือ  พิธีกรรมไหว้ครูประจำปี รองลงมาคือ การรักษาโรค  การถอนคุณไสย  การทำพีธีเสดาะเคราะห์ต่อชะตา เป็นต้น

ความเชื่อและการนับถือผีของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวไทยส่วย –กูย มี    ประเภทอันได้แก่ ความเชื่อเกี่ยวกับผี  ความเชื่อเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา   และความเชื่อเกี่ยวกับข้อขะลำ ประเพณีพิธีกรรมต่าง ๆ  ที่เกิดในกลุ่มสังคมในแต่ละวัฒนธรรมต่างก็มีความหมายต่อสังคมและชุมชนทั้งสิ้น ไม่มีพิธีกรรมใดที่สร้างขึ้นหรือ ทำการประกอบพิธีขึ้นโดยไม่มีความหมาย  ทั้งนี้ในด้านการประกอบพิธีกรรมนั้นก็ได้มีการสอดแทรกและรับเอาขนบธรรมเนียม ประเพณี  ความเชื่อ ที่มีต่อพระพุทธศาสนาเข้ามารวมด้วยทุกพิธีกรรมไป  เช่น  การบูชาดอกไม้ธูปเทียน  การขอขมากรรมต่อบรรพบุรุษ  ก่อนเริ่มพิธีกรรมมีการ ตั้งนะโม...  และกล่าวชุมนุมเทวดา....  และมีการบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางแม่ธรณี  ขอขมาต่อผู้เฒ่าผู้แก่  อันแสดงถึงความเคารพนบไหว้ ยำเกรงต่อสิ่งที่ควรเคารพกราบไหว้ ซึ่งสิ่งทั้งมวลนี้ได้มีการรับเอามาจากพระพุทธศาสนาแทบทั้งสิ้น  นี้จึงเป็นการเผยแผ่ศาสนาโดยทางอ้อม  เป็นการสอดแทรกซึ่งคุณธรรมจริยธรรมไว้ในพิธีกรรม อย่างเป็นระบบ  และเป็นขั้นตอน 

การที่จะประกอบพิธีกรรมแก็ลมอ (เข้าทรง )   เพื่อการรักษาผู้ป่วยของชาวไทยส่วย –กูย นั้นมี    กรณี อันได้แก่  เกิดจากการบนบานไว้เมื่อครั้งที่ตนยังเจ็บป่วย  และเกิดจากการประกอบพิธีกรรมขึ้น เพื่อการรักษาในขณะนั้นเลย   แต่การนี้ก็เป็นผู้รักษาด้วยพิธีกรรมแก็ลมอ (เข้าทรง ) ทุกคนก็ได้ผ่านการรักษา หรือ ได้รับการรักษาโดยวิธีการจากแพทย์แผนปัจจุบันอยู่แล้ว แต่ที่ยังต้องรับการรักษาโดยการประกอบพิธีกรรมแก็ลมอ (เข้าทรง )  เกิดจากความต้องการกำลังใจอีกทางหนึ่ง หรืออาจจะมีความเชื่อในพิธีกรรม  ดังนั้นในการประกอบพิธีกรรมแก็ลมอ (เข้าทรง ) แต่ละครั้งจะมีการรวมกลุ่ม เครือญาติและบุคคลในชุมชน  เปรียบได้ดังการได้จัดพิธีกรรมให้ผู้ป่วย  และได้รับกำลังใจจากญาติมิตรอันเป็นกำลังใจที่มีอิทธิพลมากพอสมควร แต่ในระดับหมู่บ้านหรือชุมชนนั้นจะจัดได้ง่ายหรือสามารถที่จะกระทำได้สะดวกกว่าเพราะเป็นการรวมกลุ่ม  ของญาติพี่น้องทุกคน  วิธีการรักษาจะเน้นทางสุขภาพจิตเป็นสำคัญ  เช่น การขอขมา  การขอโทษ ต่อบรรพบุรุษ หรือ ครู  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ของรักษา ) ที่ตนเองได้ให้ความเคารพนับถือ  ซึ่งได้มีการจัดพิธีกรรมตามความเชื่อของกลุ่มที่ตนเองได้ให้ความเคารพนับถือ เช่น มีการบวงสรวงเซ่นไหว้สังเวยบรรพบุรุษ สิ่งศักดิ์สิทธิ์  การประกอบพิธีกรรมการเข้าทรง  ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ และพิธีเรียกขวัญแก่ผู้ป่วย   เป็นต้น

อิทธิพลความเชื่อในพิธีกรรมการเข้าทรงของชุมชนนั้น  พิธีกรรมการเข้าทรงเป็นพิธีที่จัดขึ้นเพื่อมุ่งเน้นการรักษาผู้ป่วย หรือการทำนายทายทัก  ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่พึ่งอำนาจภายนอกสิ่งเหนือธรรมชาติ  พิธีกรรมนี้มีมาตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน แม้นคนยุคสมัยนี้จะว่ากันว่าเป็นยุคแห่งเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าก็ตามแต่ความสำคัญ  ความเชื่อยังมีอยู่ไม่เสื่อมคลาย จนมีการรับช่วงต่อจากรุ่นสู่รุ่น จนกลายเป็นประเพณีของชาวชุมชน  ปัจจุบันยังมีการประกอบพิธีกรรมเช่นนี้อยู่  ทั้งนี้พิธีกรรมเข้าทรงมีอิทธิพลต่อชุมชน  สังคม  ในด้านต่าง ๆ ได้แก่  อิทธิพลด้านศาสนา   ด้านการรักษา  ด้านการศึกษา  ด้านการสื่อสาร   ด้านเศรษฐกิจ  ด้านการเมืองการปกครอง  และด้านสังคมและวัฒนธรรม เป็นต้น  

ดาวน์โหลด

 

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕