หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » มานิตย์ มณีโชติ
 
เข้าชม : ๑๙๙๙๖ ครั้ง
การบริหารงาตามแนวหลักไตรสิกขาสำหรับผู้บริหารในวิทยาลัยสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ชื่อผู้วิจัย : มานิตย์ มณีโชติ ข้อมูลวันที่ : ๑๗/๑๒/๒๐๑๖
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระราชปริยัติเมธี
  อานนท์ เมธีวรฉัตร
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๕๕๗
 
บทคัดย่อ

 

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของบุคลากรต่อการบริหารของผู้บริหารวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชรตามหลักไตรสิกขา ๒) เพื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจของบุคลากรต่อการบริหารของผู้บริหารวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชรตามหลักไตรสิกขา จำแนกตามความแตกต่างด้านปัจจัยส่วนบุคคลและ ๓) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรคและแนวทางแก้ไขการบริหารงานตามหลักไตรสิกขาของผู้บริหารวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร

โดยใช้วิธีวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่  ข้าราชการครู พนักงานราชการ ครูพิเศษ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว  ของวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร จำนวน ๑๖๒ คน

ผลการศึกษาวิจัยพบว่า

มีความพึงพอใจของบุคลากรต่อการบริหารงานของคณะผู้บริหารวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร ตามหลักไตรสิกขา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (=.๕๕  S.D. = .๖๗) เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน ได้แก่

๑. ด้านการบริหารตามหลักศีลสิกขา ผลการวิจัย พบว่า มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (=  ๓.๗๐ S.D. = .๖๒) รองลงมาด้านการบริหารตามหลักสมาธิสิกขา มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (=  ๓.๕๐  S.D. = .๗๒) และด้านการบริหารตามหลักปัญญาสิกขา มีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง  (=  ๓.๔๔ S.D. = .๗๖)

๒. ผลการเปรียบเทียบความพึงพอใจของบุคลากรต่อการบริหารงานของคณะผู้บริหารวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร ตามหลักไตรสิกขา จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล  ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา การดำรงตำแหน่ง และประสบการณ์ในการทำงาน พบว่า เพศ บุคลากรที่มีเพศต่างกันมีความพึงพอใจต่อการบริหารงานของผู้บริหารวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร ตามหลักไตรสิกขา โดยภาพรวมไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕  ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้  อายุ บุคลากรที่มีอายุต่างกันมีความพึงพอใจต่อการบริหารงานของผู้บริหารวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร ตามหลักไตรสิกขา โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕  ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ 

การเปรียบเทียบพหุความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นคู่ (Multiple Comparisons) โดยภาพรวมของด้านการบริหารตามหลักศีลสิกขา ด้านการบริหารตามหลักสมาธิสิกขา และด้านการบริหารตามหลักปัญญาสิกขา ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference: LSD) พบว่า ด้านการบริหารตามหลักศีลสิกขา หลักสมาธิสิกขา และหลักปัญญาสิกขาจำแนกตาม

ระดับอายุ บุคลากรที่มีอายุที่แตกต่างกัน มีความพึงพอใจต่อการบริหารงานของะผู้บริหารวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร ตามหลักไตรสิกขา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ และบุคลากรที่มีอายุใกล้เคียงกัน มีความพึงพอใจไม่แตกต่างกัน ส่วน ระดับการศึกษา, การดำรงตำแหน่ง และประสบการณ์ในการทำงาน มีความพึงพอใจต่อการบริหารงานของผู้บริหารวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร ตามหลักไตรสิกขา โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕  ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ 

๓. สำหรับ ปัญหา อุปสรรค ในการบริหารงานของผู้บริหารวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร ตามหลักไตรสิกขา  พบว่า งานบริหารทรัพยากร บุคลากรต้องการให้ปฏิบัติตามกฎของการจัดซื้อ จัดจ้าง ตรวจสอบได้  และใช้จ่ายเงินในโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา  ประเมินผลงานของบุคลากรด้วยความเป็นธรรม งานวิชาการ ต้องการให้มีหลักสูตรที่ทันสมัย จัดนิเทศการสอนครู สนับสนุนทุนวิจัย และให้นำผลวิจัยมาแก้ปัญหาการเรียนการสอน งานกิจการนักเรียนนักศึกษา ต้องการให้มีความยืดหยุ่นในการใช้กฎระเบียบและให้ความเป็นธรรมกับนักเรียน นักศึกษา ให้คำปรึกษา อย่างสม่ำเสมอและมีความเมตตา งานแผนงานและความร่วมมือ ต้องการให้ปฏิบัติให้บริหารงานตามมาตรฐานของ สมศ. มีการติดตามและประเมินผลโครงการของวิทยาลัย และแก้ไขการบริหารงานตามที่ สมศ. แนะนำ และ แนวทางแก้ไข ได้แก่  การส่งเสริม คือ ๑) ให้เพิ่มมาตรการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ  ๒) ยึดถือข้อมูลเป็นสำคัญในการบริหารการศึกษา ๓) เร่งรัดการประเมินบุคลากรเพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน ๔) นิเทศการจัดการสอนของครูอย่างทั่วถึง  การติดตาม คือ  ๕) ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบ  ๖) ติดตามการทำงานของบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ  ๗) การพิจารณา  คือใช้จ่ายเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับการจัดการศึกษา  ๘) นำผลการวิจัยมาใช้ในกระบวนการเรียนการสอน ๙) พิจารณาให้สิ่งตอบแทนและลงโทษบุคลากรตามวินัยของราชการ

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕