การวิจัยครั้งนี้เป็นงานวิจัยแบบเชิงปริมาณ (Quantitative Research) เพื่อศึกษาการส่งเสริมขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของครูระดับประถมศึกษา โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร โดยมีจุดมุ่งหมายของการวิจัย ๓ ประการ คือ ๑ เพื่อศึกษาความคิดเห็นการส่งเสริมขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของครูระดับประถม, ๒ เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นการส่งเสริมขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของครูระดับประถมศึกษา, และ ๓ เพื่อศึกษาแนวทางพัฒนาการส่งเสริมขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของครูระดับประถมศึกษาโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม (Questionnaire) ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็น ครูระดับประถมศึกษา โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ๖ โรงเรียน จำนวน ๑๙๖ คน โดยใช้การทดสอบค่าที (t – test) ในกรณีตัวแปรต้นสองกลุ่ม และ การทดสอบค่าเอฟ (F – test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way Anova) ถ้ามีนัยสำคัญทางสถิติ จะทำการเปรียบเทียบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีการของเซฟเฟ่ (Scheffe) โดยกำหนดระดับสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕
ผลการวิจัย
๑. ความคิดเห็นของครูระดับประถมศึกษา ที่มีต่อการส่งเสริมขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ทุกด้านอยู่ในระดับมากตามลำดับดังนี้ ด้านโอกาสก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ด้านการปกครองผู้บังคับบัญชา ด้านสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน ด้านลักษณะของงานที่ทำ ด้านความเพียงพอของรายได้
๒.การเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูระดับประถมศึกษา ที่มีต่อการส่งเสริมขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน ที่มีเพศ วุฒิการศึกษา อายุ ประสบการณ์การทำงาน ที่ต่างกัน โดยภาพรวม ไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้าน ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕
๓.การศึกษาแนวทางพัฒนาการส่งเสริมขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของครูด้านการปกครองผู้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชาควรมีความมั่นคงทางอารมณ์ สุขุมรอบคอบ และใช้เหตุผลในการตัดสินปัญหา และนอกจากนี้ควรมีความสม่ำเสมอในการปฏิบัติตนต่อผู้ใต้บังคับบัญชา รวมไปถึงการควบคุมการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามขั้นตอนที่เคยปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและครบถ้วน ด้านโอกาสก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ ควรสร้างความพึงพอใจในด้านค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับแหน่งหน้าที่ในการทำงาน ให้เกิดมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินระหว่างปฏิบัติงานและการเดินทางไปปฏิบัติงาน และได้รับเกียรติและมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนร่วมงานได้เต็มที่ โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานเมื่อประสบปัญหาในการทำงาน ในหน่วยงาน ซึ่งทุกคนให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงานเป็นอย่างดี ด้านความเพียงพอของรายได้ มีความสะดวกในการเบิกจ่ายเกี่ยวกับเงินสวัสดิการต่าง ๆ และเพียงพอต่อการดำรงชีพในภาวการณ์ปัจจุบัน และในยามที่เดือดร้อนสามารถพึ่งพาอาศัยจากสวัสดิการของหน่วยงานได้ ด้านลักษณะของงานที่ทำ มีการให้ปฏิบัติงานพิเศษทำในวันหยุดราชการอย่างเหมาะสม มีการจัดหาวัสดุครุภัณฑ์ไว้เอื้ออำนวยและเพียงพอต่อการปฏิบัติงาน ปริมาณงานสอดคล้องกับชั่วโมงการทำงานในแต่ละวัน ด้านสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงานต่าง ๆ เป็นงานที่ท้าทายก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ และมีบรรยากาศ สภาพแวดล้อมในโรงเรียนเอื้อต่อการทำงานอย่างมีความสุข
|
ค้นหา 
.jpg)
